วันนี้น้องพาเที่ยวเมืองจันกันนะคะ |
ดูปลาเสร็จก็ขับรถย้อนออกมาทางวงเวียนหมูดุดเลี้ยวซ้ายไปหาดคุ้งวิมาน ที่นี่มีที่พักและร้านอาหารหลายแห่งถึงชายหาดเลี้ยวซ้ายอีกที ขับรถไปสุดทางขึ้นเขาไปทางหมู่บ้านชาวประมงก็ถึงจุดชมวิวหาดคุ้งวิมานที่แสนสวยแล้วครับ |
หนูทริปถ่ายรูปคู่กับคุณแม่เอ๋หน่อยคะ |
ชมวิวเรียบร้อย ก็ขับรถกลับที่พัก เตรียมตัวเล่นน้ำทะเลแล้วคะ |
เล่นทรายก่อนนะคะ |
เล่นน้ำยามเย็นสบายๆไม่ร้อนคะ |
ทริปจะบินแล้วนะ |
บรรยากาศยามเย็นหาดเจ้าหลาว |
บรรยากาศช่วงเช้าหาดเจ้าหลาว |
ร้านอาหารของรีสอร์ท หาดตื้น คลื่นสวย |
ที่พักมีให้เลือกหลายรูปแบบ |
สนามเด็กเล่นติดชายหาด |
สระว่ายน้ำของหาดตื้น คลื่นสวย สระปิด หกโมงเย็น |
ท่าเรือ ไปตกหมึก ดำน้ำ ดูเต่า ติดต่อได้ตามเคาน์เตอร์ที่พักต่างๆในหาดเจ้าหลาว มีรถรับถึงทีพัก ตกหมึกท่านละ 500 บาท ดำน้ำดูปลา กับไปดูเต่าท่านละ 850 บาท |
สะพานแขมหนู |
น้องทริปตื่นได้แล้วจ้า เช้าแล้วนะ |
หนูทริปอาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ |
ว่ายน้ำกับเป็ดด้วยคะ |
มีสระเด็กให้น้องทริปด้วยนะคะ |
สะพานปากน้ำแหลมสิงห์ |
ชมวิวกลางสะพานปากน้ำแหลมสิงห์ |
คุกขี้ไก่
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ก่อนถึงท่าเทียบเรือ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112)เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรี ในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ระหว่างนั้นกองทหารฝรั่งเศสประมาณ 600 คน แยกกันอยู่สองแห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ที่เมืองจันทบุรี บริเวณที่เป็นค่ายทหารในปัจจุบัน อีกแห่งอยู่ที่ปากน้ำแหลมสิงห์ ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละประมาณ 4.40 เมตร สูงประมาณ 7 เมตร มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่าเป็นคุกที่ทรมานมาก เพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา
|
ตึกแดง เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน กว้าง 7 ม. ยาว 32 ม. ทาสีแดงชาด ภายในแบ่งเป็น 5 ห้อง มีประตูเปิดถึงกันหมด มีระเบียงสองด้านตามแนวยาวของตัวตึก สร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งป้อมปืนเก่าแก่และได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อรับศึกญวน ฝรั่งเศสได้รื้อตึกจากตัวป้อมมาสร้างตึกแดงเพื่อใช้เป็นที่พักนายทหารและกองรักษาการณ์ปากน้ำแหลมสิงห์ ตึกแดงได้รับการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2527 และใช้เป็นอาคารห้องสมุดและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนของ อ.แหลมสิงห์ ต่อมาเลิกใช้และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม |
มาถึงโอเอซิส ซีเวิลดิ์ ตอนเที่ยงกว่าๆ เดินเล่นรอบๆก่อน เลยแวะมาให้อาหารปลากระพงที่ด้านในก่อน เพราะเราจะได้ดูโชว์โลมารอบบ่ายโมงตรง ราคาค่าบัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 90 บาท |
มีทั้งปลากระพง และปลาหมอ อาหารปลากล่องละ 20 บาทจ้า |
ตรงกลางเป็นบ่อโลมาขนาดใหญ่แบ่งไว้หลายห้อง เอาไว้ฝึกปลาโลมาที่เอาไว้แสดงโชว์ เจ้าตัวนี้ขึ้นมาโชว์ตัวอาบแดดเลยได้เห็นตัวใกล้ๆ |
บ่ายโมงถึงเวลาโชว์โลมาแล้ว |
กระโดดหมุนตัวกลางอากาศ |
อนุสรณ์แห่งความรักสถูปพระนางเรือล่ม
อยู่ในบริเวณน้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี ภายในสภูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯด้วย เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงโสมนัส ชื่นชม ความงามธรรมชาติของน้ำตกพลิ้วยิ่งนัก การที่ทรงโปรดให้สร้างอนุเสาวรีย์รูปปิรามิดก็ด้วยทรงพระราชดำริว่า " ทำเป็นรูปอื่นอาจไม่คงทนภาวร เพราะตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพรอันไม่มีผู้ดูแล ฉะนั้นเมื่อปิรามิดของอียิปต์ยืนยงคงทนได้ฉันใด ปิรามิดน้อยนี้ก็คงจะยืนยงคงทนอยู่เช่นกัน ณ ท่ามกลางป่าและเสียงไหลรินของธารพลิ้ว "
|
น้องทริปให้อาหารก่อนนะคะ |
ปลาพลวง ปลาประจำถิ่นน้ำตกพลิ้ว |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น